Headlines

  • แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ไฟฟ้ารถยนต์ แสดงบทความทั้งหมด
    แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ไฟฟ้ารถยนต์ แสดงบทความทั้งหมด

    สาเหตุไฟเตือนระบบเครื่องยนต์โชว์

    สาเหตุไฟเตือนระบบเครื่องยนต์โชว์
    สาเหตุไฟเตือนระบบเครื่องยนต์โชว์


    สาเหตุไฟเตือนระบบเครื่องยนต์โชว์

    เชื่อว่าหลายคนที่ใช้รถอยู่เป็นประจำ อาจเคยสังเกตเห็นไฟรูปเครื่องยนต์ขึ้นโชว์บนหน้าปัดหรือเรือนไมล์ เวลาที่เสียบกุญแจแล้วบิดสวิตช์ไปตำแหน่ง ON และเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ติดแล้วไฟ Check Engine ก็จะหายไป ซึ่งการเกิดรูปแบบลักษณะดังกล่าวนี้ถือว่าการทำงานของระบบต่างๆ นั้นปกติ

    แต่ในทางกลับกันเมื่อสตาร์ทแล้วและเครื่องยนต์ติดอยู่ แต่ไฟ Check Engine ไม่ได้ดับลง นั่นแสดงว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น (Fault) ซึ่งไฟ Check Engine จะขึ้นเพื่อเตือนให้เรานำรถเข้าตรวจเช็ค แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เกิดปัญหาใหญ่เกี่ยวกับเครื่องยนต์ ฉะนั้นไม่ต้องกังวลหรือตกใจจนต้องโทรตามช่างหรือเรียกรถสไลด์ด่วนในทันทีทันใด แต่ขึ้นเพื่อให้เรานำรถเข้ารับการตรวจเช็คโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะบางทีหากเราไม่สนใจทำอะไรเลยก็อาจจะส่งผลให้เกิดความเสียหายหนักๆ ได้ตามมาภายหลัง

    การที่ไฟ Check Engine ขึ้นโชว์เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ แต่หลักๆ มาจาก 4 ปัจจัยซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของเครื่องยนต์ คือ ระบบการฉีดน้ำมัน (Injection System) ประกอบด้วยระบบจ่ายน้ำมันและระบบหัวฉีด, ระบบจุดระเบิด (Ignition System) ซึ่งประกอบด้วย คอยล์ หัวเทียน และ Sensors ต่างๆ ถ้าเป็นเครื่องยนต์ดีเซล ระบบจุดระเบิดจะแตกต่างกับเครื่องเบนซิน, ระบบอัดอากาศและระบบ Vacuum ซึ่งประกอบด้วยท่ออากาศและท่อ Vacuum (สูญญากาศ) ต่างๆ และระบบควบคุมไอเสีย (Exhaust Emission System) 


    ซึ่งประกอบด้วยระบบ EGR (Exhaust Gas Recirculation System) และ Sensors วัดปริมาณไอเสียหรือ ที่เรียกว่า Oxygen Sensor นอกจากสาเหตุหลักที่กล่าวมาข้างต้น สาเหตุอื่นๆ ที่หลายคนคาดไม่ถึง ซึ่งเราได้หยิบยกมาเป็นข้อมูลให้ผู้อ่านได้ทราบในครั้งนี้ด้วย ก็คือสิ่งผิดปกติที่ไม่ได้เกิดจากการเสียของอุปกรณ์ใดๆ เช่น เกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ มักพบบ่อยมากในกรณีเติมน้ำมันไม่ได้ค่า Octane ตามที่เครื่องยนต์ต้องการ หรือในรถรุ่นใหม่ๆ จะมีความไวต่อการตรวจสอบอย่างยิ่ง แค่ปิดฝาถังน้ำมันไม่สนิท ไฟ Check Engine ก็ขึ้นโชว์ได้เช่นกัน กรณีเหล่านี้สามารถใช้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์เพื่อลบไฟ Check Engine นี้ได้ หรือบางครั้งไฟก็ดับไปเอง

    บางกรณีหากคุณพอมีความรู้ด้านฝีมือช่างหรือสนใจในการปรับแต่งอยู่บ้าง ก็สามารถแก้ไขปัญหา Check Engine ได้ด้วยตัวเอง หากว่าสาเหตุไม่ได้เกิดจากการชำรุดเสียจากเครื่องยนต์แบบหนักหน่วงหรือจำเป็นต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ โดยเบื้องต้นตามคู่มือตรวจเช็คประจำวัน ดูระดับน้ำมันของเหลวต่างๆ เช็คดูว่ามีร่องรอยรั่วไหลให้เห็นชัดเจนหรือไม่ รวมทั้งดูการทำงานของพัดลม หรือสายพานมีเสียงดังผิดไปจากปกติหรือเปล่า ถ้าไม่มีให้ลองถอดขั้วลบแบตเตอรี่ออกสัก 10-15 วินาที แล้วค่อยต่อเข้าไปใหม่ 


    บางทีอาจไม่เป็นอะไรเลยก็ได้ หรือหากถึงขั้นแอดว้านซ์หน่อย เพียงคุณนำอุปกรณ์ที่เรียกว่า OBD II  มาเสียบต่อกับพอร์ทของรถ (ส่วนใหญ่อยู่ใต้คอพวงมาลัย) จากนั้นเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนซึ่งมี App รองรับ เพื่อดูข้อมูลรหัสความผิดที่ ECU รถยนต์ได้ตรวจพบและบันทึกเก็บไว้ โดยเราจะสามารถนำค่านี้ไปค้นหาความผิดพลาดต่างๆ ของเครื่องยนต์ได้ เช่น อาจพบว่ามีสายไฟบางตัวขาด หรือฟิวส์ขาด ซึ่งในจุดนี้เราก็สามารถทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนเองได้ นอกจากนี้ OBD II ยังลบ Code ที่ Error ช่วยให้ไฟ Check Engine ดับลงได้อีกด้วย

    ที่มา roojai.com

    ไฟหน้ารถยนต์มีกี่แบบ

    ไฟหน้ารถยนต์มีกี่แบบ
    ไฟหน้ารถยนต์มีกี่แบบ


    ไฟหน้ารถยนต์มีกี่แบบ

    ไฟหน้า อุปกรณ์ส่องสว่างให้กับรถยนต์ในทุกเส้นทาง ที่นอกจากจะช่วยเรื่องความปลอดภัยเวลากลางค่ำกลางคืนแล้ว รูปทรงของไฟหน้ายังเปรียบเสมือนกับหน้าตา ความสวยงามมีผลต่อดีไซน์ของรถอีกด้วย วันนี้เราจะพาไปดูกันว่า รถรุ่นใหม่ที่วิ่งๆ กันตามท้องถนนในตอนนี้ ใช้โคมไฟประเภทไหนบ้าง มีกี่แบบและทำงานอย่างไร

    โคมไฟหน้า
    โคมไฟหน้า

    ในรถบางรุ่น ภายในโคมไฟหน้าข้างหนึ่งของรถอาจประกอบด้วยไฟที่มากกว่าหนึ่งประเภท ที่พร้อมทำงานกับไฟกลางวัน Daytime Running และระบบต่างๆ ที่ช่วยในการขับขี่ทั้งการปรับองศาโคมไฟหน้าตามการหักเลี้ยวของพวงมาลัย Active Light system, ระบบเพิ่มกำลังส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง Cornering light หรือยิ่งถ้ารถเป็นรุ่นที่เน้นในเรื่องเทคโนโลยี ความอัฉริยะจะมีเซ็นเซอร์หรืออินฟาเรดเข้ามาช่วยประมวลผลให้การทำงานของไฟหน้า

    เราไปดูกันดีกว่าว่ารถในปัจจุบันใช้โคมไฟหน้าประเภทใดบ้าง

    ประเภทไฟหน้าที่มีใช้งานอยู่มากในรถรุ่นที่ขายอยู่ในท้องตลาดปัจจุบัน แทบจะกลายเป็นพื้นฐานของรถสมัยนี้ไปแล้วกับ ไฟหน้า Multi Reflector โคมไฟฝาครอบใสสามารถมองเห็นภายในโคมได้ชัดเจน เมื่อมองเข้าไปจะเห็นหลอดไฟและจานสะท้อนแสง บางรุ่นมีการนำหมวกบังหลอดเพื่อช่วยสำหรับในการรวมแสงที่ดีกว่า ใช้หลักการสะท้อนมาช่วยให้ลำแสงพุ่งตรงไฟข้างหน้า แต่ไฟประเภทนี้จะมีแสงกระจายออกที่ด้านข้างอยู่

    ความต้องการของผู้ใช้รถที่ต้องการให้ไฟหน้าสว่างมองเห็นได้ชัดเจนในเวลากลางคืน ไฟประเภทนี้สามารถนำไปเปลี่ยนหลอดที่เพิ่มกำลังวัตต์ให้สว่างขึ้นได้ บางคนไปเปลี่ยนเป็นหลอด Xenon ที่สว่างแต่กระจายแสงออกด้านข้างมากเกินไป ไม่เป็นไปตามาตรฐานที่โรงงานผู้ผลิตรถกำหนดมา แสงที่ส่องกระจายออกด้านข้างจนกลายเป็นปัญหาไฟหน้าแยงตารถคันที่ขับสวนมา 
     

    โคมเป็นฝาครอบใสมองเห็นภายในเป็นเหมือนลูกแก้ววงกลมใหญ่ๆ เลนส์นูน โคมไฟที่ใช้หลักในการรวมแสงของเลนส์ มาจากหลักการทำงานของเลนส์กล้องส่องทางไกลมารวมแสงที่ออกจากหลอด เพราะหลอดไฟทั่วไปจะให้แสงออกมารอบด้านอย่างไฟ Multi Reflector จึงต้องมีอะไรมาช่วยในการบังคับแสงให้ส่องไปในทิศทางเดียวกันอย่างโคมฉายแสงในรถยนต์ทั่วไป แต่ตัวโคมทั่วไปไม่สามารถบังคับแสงดีพอทำให้ลำแสงพุ่งตรงไม่ออกด้านข้าง ไฟแบบ Projector สามารถรวมแสงให้ส่องไปในทิศทางเดียวกันได้ดีกว่า ส่วนใหญ่จะใช้ร่วมกับหลอดไฟ Xenon เพราะว่าหลอดไฟ Xenon มีการกระจายแสงสูงกว่าหลอดไส้ทั่วไปไฟ Projector ก็สามารถรวมแสงของเอาไว้ได้อยู่หมัด

    โดยไฟ Projector จะมีอยู่ 2 ประเภทดังต่อไปนี้

    Single Xenon Projector

    Single Xenon Projector
    Single Xenon Projector
    คือไฟ Projector ทำงานร่วมกับไฟ Xenon จะมีแต่ไฟต่ำเท่านั้นซึ่งจะทำงานร่วมกับไฟสูงที่เป็นหลอด Halogen อีกชุดออยู่ภายใต้โคมไฟเดียวกัน

    Bi-Xenon

    ไฟ Projector ที่ภายในโคมมีทั้งไฟสูงและไฟต่ำ โดยใช้ ‘Shutter’ มาช่วยทำหน้าที่เปิดและปิดให้เป็นไฟสูงและต่ำ ไฟหน้าแบบ Bi-Xenon ยังทำงานบนพื้นฐานของไฟ Xenon ตามปกติ แต่จะใช้หลักของการสะท้อนแสงคอยปรับการทำงานให้เป็นทั้งไฟสูงค้างไว้ มีอุปกรณ์ภายในโคมทำหน้าที่เหมือนเป็น ‘Shutter’ คอยสับควบคุมการกระจายของแสงไฟซีนอนโดย Shutter จะขยับตัวขึ้น-ลงเป็นตัวควบคุมว่าจะให้แสงที่ออกมาเป็นไฟต่ำหรือไฟสูงตามที่ผู้ใช้รถต้องการ

    ไฟแบบ LED

    จะคล้ายกับไฟ Projector แต่ไม่มีเลนส์นูนลูกแก้วใหญ่อยู่ในโคม ถูกสร้างโดยใช้หลักในการสะท้อนคล้ายกับไฟ Multi Reflector แต่สามารถผลิตแสงออกมาได้รูปทรงที่หลากหลายมากกว่าให้เข้ากับดีไซน์ของตัวรถที่ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น ส่วนใหญ่มักจะมีหลายๆ ดวงเรียงกัน เห็นได้บ่อยมากจากไฟท้ายรถรุ่นใหม่ๆ ที่นิยมใช้ไฟ LED เข้ามาเพื่อช่วยในความสวยงาม แต่ความสว่างในการใช้งานก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเดิมแม้แต่น้อย ใช้หลอด LED จะให้ความสว่างที่มากกว่าหลอดฮาโลเจนเทียบเท่ากับหลอด Xenon แต่ให้ลำแสงที่พุ่งตรง ไม่กระจายแสบตา เมื่อมาวางเรียงกันจะให้เส้นสายของไฟที่คมชัด ที่สำคัญประหยัดไฟแต่ข้อเสียก็มีคือราคาค่อนข้างสูงจากจำนวนหลอดไฟที่ใช้มากกว่าหลอดประเภทอื่นๆ

    ไฟหรือโคมไฟของรถหลายประเภทต่างมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน จากนี้ถ้าคุณได้อ่านโบรชัวร์ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถคันใหม่สักคัน ก็จะสามารถเปรียบเทียบ ข้อดี-ข้อเสียของโคมไฟในรถแต่ละรุ่นได้แล้ว ต่อไปในอนาคตก็ยังมีไฟประเภทใหม่ๆ ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงไม่หยุดการพัฒนา สว่างขึ้น ดีขึ้น จ่อคิวเข้ามาประจำการอยู่บนรถที่ขายทั่วในท้องตลาดอย่างเช่นไฟ Laser High Beams ซึ่งถูกใช้แล้วในรถ Audi R8 หรือ BMW Series-7 740Li

    อย่างไรก็ตามถ้าคุณมีความรู้สึกว่าโคมไฟหน้าสว่างไม่พอ คิดจะเปลี่ยนหลอดให้ความสว่างมากขึ้น สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึง คือไม่ควรทำให้ไฟหน้าของรถคุณสว่างมากเกินไป เข้าใจว่ามันดีกับผู้ขับขี่มองเห็นได้ชัดเจนในเวลากลางคืน แต่มันทำให้รถที่ขับสวนมาหรือรถคันที่คุณขับไปจอดต่อท้ายเดือดร้อนเพราะไฟหน้ารถคุณไปแยงตาหรือสะท้อนกระจกมองหลัง ใช้รถใช้ถนนควรยึดหลักว่า ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ถ้าคิดจะเปลี่ยนหลอดไฟเพิ่มความสว่างก็เลือกที่ความสว่างที่พอดี ไม่มากเกินไป

    ที่มา chobrod.com


    ระบบไฟฟ้ารถยนต์ขั้นพื้นฐาน

    ระบบไฟฟ้ารถยนต์ขั้นพื้นฐาน
    ระบบไฟฟ้ารถยนต์ขั้นพื้นฐาน

    ระบบไฟฟ้ารถยนต์ขั้นพื้นฐาน


    ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ใช้รถ ต้องมีการขับขี่รถยนต์กันอยู่เป็นประจำแล้ว เรื่องของการดูแลรักษารถยนต์ให้อยู่คู่กับเราไปอีกนานก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งการดูแลเอาใจใส่เมื่อเกิดปัญหาเราก็จะสามารถได้ทราบว่าเกิจากสาเหตุใดที่ถูกวิธีนั้นก็จะทำให้รถคู่ใจอยู่กับเราได้นาน เราจำเป็นจะต้องรู้จักระบบต่าง ๆ ของรถให้มากที่สุด  เกิดจากระบบส่วนไหนของตัวรถยนต์ เพื่อให้การดูแลรักษาเป็นไปอย่างถูกต้อง ระบบไฟฟ้ารถยนต์เป็นอีกหนึ่งระบบที่สำคัญมากสำหรับการทำงานหลักของรถยนต์ วันนี้เรามาดู ระบบไฟฟ้ารถยนต์ขั้นพื้นฐานที่ควรรู้สำหรับผู้ใช้รถมาฝากกันครับ

    1.ไดชาร์จ (Alternator) มีหน้าที่เป็นตัวผลิตไฟฟ้า” โดยอาศัยกำลังเครื่องยนต์ ส่งกำลังมาผ่านทางสายพาน ส่งให้ไดชาร์จหมุน เพื่อปั่นกระแสไฟออกมาใช้ในระบบไฟฟ้ารถยนต์ หากไดชาร์จเกิดเสีย ระบบไฟฟ้ารถยนต์จะไม่ทำงาน ทำให้รถยนต์ไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ โดยอาการไดชาร์จมีปัญหานี้มักจะพบในรถที่เริ่มมีอายุการใช้งานที่นานแล้ว และไดชาร์จเองก็มีอายุการใช้งานในระยะหนึ่ง เมื่อหมดอายุก็ต้องเปลี่ยนอันใหม่ เพื่อให้ระบบไฟฟ้ารถยนต์ใช้งานต่อไปได้ เพราะด้านในของไดชาร์จจะประกอบด้วยทุ่นและแปลงถ่าน ถ้าทั้งสองสิ่งนี้เริ่มสึก จะส่งผลให้ไดชาร์จเสื่อมสภาพ

    หากไดชาร์จเริ่มเสื่อมสภาพ จะมีการส่งสัญญาณว่าระบบไฟฟ้ารถยนต์เริ่มมีปัญหา โดยระบบไฟฟ้ารถยนต์ทั้งหมดจะอ่อนลง เช่น ไฟหน้าเริ่มหรี่ แอร์เริ่มไม่ค่อยเย็น บางครั้งอาจพบว่าความร้อนขึ้น เพราะพัดลมไฟฟ้าหมุนไม่แรงพอ หากมีอาการดังกล่าว ควรตรวจเช็คไดชาร์จ และระบบไฟฟ้ารถยนต์โดยรวมได้แล้ว  โดยเมื่อมีอาการของไดชาร์จเสีย จะพบไฟรูปแบตเตอรี่ขึ้นที่หน้าปัด หากพบสัญญาณนี้ ให้พยายามปิดอุปกรณ์ที่กินไฟต่าง ๆ เช่น แอร์ ไฟต่าง ๆ ภายในรถ เพื่อให้พอประคองในการขับรถเข้าอู่เพื่อซ่อม เพราะถ้าหากไดชาร์จเสีย รถจะสามารถวิ่งได้อีกสักพัก จนไฟหมดแล้วจากนั้นเครื่องยนต์ก็จะดับ ทำให้ไม่สามารถขับต่อไปได้ครับผม

    2.แบตเตอรี่ (Battery) จะทำหน้าที่เก็บไฟสำรองเมื่อไดชาร์จปั่นกระแสไฟมา หากไฟเหลือใช้ ก็จะนำมาเก็บไว้ที่แบตเตอรี่ เมื่อระบบไฟฟ้ารถยนต์มีการการใช้ไฟฟ้ามากกว่าที่ไดชาร์จทำงานได้ จะมีไฟจากแบตเตอรี่ถูกนำออกมาใช้ด้วย รวมถึงตอนสตาร์ทเครื่องที่ต้องใช้กำลังไฟมาก ระบบไฟฟ้ารถยนต์ต้องอาศัยไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ส่งมาหมุนไดสตาร์ทก่อน เพราะไดชาร์จไม่สามารถปั่นไฟได้เพียงพอในขณะนั้น จนกระทั่งเครื่องยนต์ติด ระบบไฟฟ้ารถยนต์จึงจะกลับสู่วงจรเดิม และเมื่อแบตเตอรี่ไฟหมด หรือเสื่อมสภาพ ก็จะไม่สามารถเก็บไฟไว้ได้ ส่งผลให้รถยนต์สตาร์ทไม่ได้เพราะไม่มีกำลังไฟพอ ระบบไฟฟ้ารถยนต์ไม่สามารถทำงานได้ เราสามารถแก้ปัญหาเบื้องต้นได้โดยทำการพ่วงแบตเตอรี่ รถยนต์จึงจะสามารถสตาร์ทได้ 

    โดยทั่วไปแบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 2 ปี รถยนต์บางคันอาจจะใช้ได้นานกว่านั้น หรือเสียเร็วกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่การดูแลบำรุงรักษา หากไม่ค่อยได้ดูแล เปิดฝากระโปรงรถคอยตรวจเช็ค ปล่อยให้น้ำกลั่นแห้งบ่อย ๆ ก็อาจส่งผลให้แบตเตอรี่ที่เป็นส่วนสำคัญของระบบไฟฟ้ารถยนต์ มีอายุการใช้งานสั้นลง หากมีการดูแลรักษาแบตเตอรี่อยู่เสมอ หมั่นตรวจเช็ค และเติมน้ำกลั่น ก็จะทำให้แบตเตอรี่
     

    คงทน ใช้งานได้นาน รวมถึงคุณภาพของแบตเตอรี่ที่ใช้ก็มีความสำคัญต่อระบบไฟฟ้ารถยนต์เช่นกัน หากเลือกแบตเตอรี่ที่ดี มีมาตรฐาน กำลังไฟแรง สำรองไฟได้นาน อย่าง 3K Battery ก็จะยิ่งทำให้ระบบไฟฟ้ารถยนต์ของเรามีประสิทธิภาพ อยู่เป็นคู่หูคู่ใจของรถยนต์ของเราไปได้ยาวนานขึ้นครับ

    3.โวลต์ (Voltage) คือค่าความต่างศักย์ของไฟฟ้าในรถยนต์ ซึ่งมีค่าอยู่ที่ 12V นั่นหมายความว่า อุปกรณ์ระบบไฟฟ้ารถยนต์ในรถทั้งคัน จะต้องใช้ค่าความต่างศักย์ เท่ากับ 12V เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ระบบไฟฟ้าของเมืองไทย โดยปกติอยู่ที่ 220V ส่วนในต่างประเทศก็จะแตกต่างกันออกไป ที่ญี่ปุ่น จะใช้ไฟ 110V หากเรานำอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีโวลต์น้อยกว่าไปใช้กับกระแสไฟโวลต์สูงกว่า ก็สามารถจะใช้เครื่องมือนั้นได้ แต่จะทำให้อุปกรณ์นั้นพังเร็ว
     

    สำหรับโวลต์ ในระบบไฟฟ้ารถยนต์ ปกติในการขับขี่ทั่วไป เข็มโวลต์จะต้องชี้อยู่ที่ 12-13V หากพบว่าตกลงเหลือ 11-10V นั่นหมายความว่าไฟเริ่มตกแล้ว แต่ยังพอใช้ได้ หากเร่งเครื่องแล้วโวลต์ขึ้น นั่นหมายความว่าไดชาร์จเริ่มเสื่อม ถ้าต่ำกว่า 10V นั่นคือ ไฟชาร์จไม่พอ ควรรีบเข้าอู่พบช่างเพื่อตรวจหรือซ่อม แต่หากพบว่าเข็มชี้เกินกว่า 14V หมายความว่าไฟชาร์จเกิน ระบบไฟฟ้ารถยนต์มีปัญหาหนักหนาตามมาแน่นอน เช่น น้ำกลั่นเดือด อุปกรณ์ไฟฟ้าร้อนจัดจนเกิดอาการช็อตหรือไหม้ ให้รีบพารถคู่ใจเข้าอู่ด่วนครับ

    4.รีเลย์ (Relay) มีหน้าที่เพิ่มพื้นที่สะพานไฟ  ทำให้กระแสไฟเดินได้สะดวกขึ้น และผ่านได้จำนวนมากขึ้น ส่งผลให้ระบบไฟฟ้ารถยนต์ทำงานได้อย่างเต็มรูปแบบ หากมีการเพิ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าให้กับตัวรถ แต่ไม่มีรีเลย์ไปต่อพ่วง  จะเกิดการ Over load เพราะพื้นที่สายไฟเล็กเท่าเดิม แต่มีการดึงไฟมาใช้มากขึ้น อาจทำให้สายไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้านั้นร้อนจัดจนช็อตได้ครับ ดังนั้นในการติดตั้งรีเลย์ ควรจะต้องใช้รีเลย์จำนวนเพียงพอกับอุปกรณ์ไฟฟ้า และแยกรีเลย์ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไฟฟ้าเป็นอย่างๆไป เพื่อที่เวลารีเลย์เสีย ระบบไฟฟ้าของรถยนต์จะไม่เสียทั้งหมดเหมือนต่อร่วมกันเยอะๆ 

    ควรใช้รีเลย์ที่มีคุณภาพดี ถ้าใช้รีเลย์คุณภาพไม่ดี ความทนทานต่ำ ระบบไฟฟ้ารถยนต์อาจเสียหายในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้น เลือกซื้อรีเลย์คุณภาพดี ประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้ารถยนต์ชัวร์กว่าแน่นอนครับ
     

    ระบบไฟฟ้ารถยนต์เป็นส่วนสำคัญในการทำให้ระบบต่าง ๆ ของเครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หมั่นตรวจเช็ค ดูแลระบบไฟฟ้ารถยนต์ของเราให้ดี เพื่อที่รถยนต์ของเราจะได้อยู่กับเรายาวนานขึ้นนะครับ




    ที่มา 3kbattery.co.th

     
    Copyright © PEEICE. Designed by OddThemes