Headlines

  • แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แบตเตอรี่รถยนต์ แสดงบทความทั้งหมด
    แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แบตเตอรี่รถยนต์ แสดงบทความทั้งหมด

    ความรู้แบตเตอรี่รถยนต์

    ความรู้แบตเตอรี่รถยนต์

    ความรู้แบตเตอรี่รถยนต์


    ความรู้แบตเตอรี่รถยนต์

    รถยนต์ซึ่งมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมาก ความรู้แบตเตอรี่ถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กันเพราะแบตเตอรี่รถยนต์คือหัวใจของรถยนต์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนแรกที่ทำให้รถยนต์สตาร์ทติดและยังทำหน้าที่ป้อนพลังงานไฟฟ้าไปส่วนต่างๆ เช่นไฟหน้า ไฟหลัง ไฟภายในห้องผู้โดยสาร ระบบปรับอากาศ ระบบวิทยุ เป็นต้น


    แบตเตอรี่รถยนต์คือแบตเตอรี่ประเภทตะกั่วกรดสามารถจำแนกได้ 3 ชนิดดังต่อไปนี้

    1.แบตเตอรี่รถยนต์ชนิดน้ำ(แบบเปียก) คือแบตเตอรี่รถยนต์ที่ต้องดูแลรักษาโดยการเติมน้ำกลั่นทุกเดือน ลักษณะแบตเตอรี่เปียกจะมีช่อง 6 รูพร้อมฝาหมุนปิด ราคาค่อนข้างถูก สามารถใช้งานได้ประมาณ 1.5 ถึง 2.5 ปีหรือ 60,000-80,000 กิโลเมตรขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา

    2.แบตเตอรี่รถยนต์ชนิดกึ่งแห้ง(แบบกึ่งแห้งหรือMF)คือแบตเตอรี่ที่ถูกพัฒนาไม่นานนัก มีคุณสมบัติคล้ายกับแบบน้ำแต่ดูแลรักษาง่ายกว่าโดยคอยเติมน้ำกลั่นทุกๆ 4-6 เดือนเนื่องจากน้ำกรดข้างในมีความเข้มข้นสูงกว่าจึงระเหยตัวได้ช้ากว่า ราคาก็จะแพงกว่าแบบเปียกประมาณ 200 ถึง 300 ร้อยบาท สามารถใช้งานได้ประมาณ 2 ปีหรือ 70,000 ถึง 80,000 กิโลเมตร

    3.แบตเตอรี่รถยนต์ชนิดแห้ง(แบบแห้งหรือSMF) แบตเตอรี่ชนิดนี้ไม่มีรูเติมน้ำกลั่น ไม่ต้องดูแลรักษา มีตาแมวเอาไว้แสดงสถาณะไฟในแบตเตอรี่ ราคาค่อนข้างสูง แต่ใช้งานได้ทนทานโดยอายุงานเฉลี่ยอยู่ที่ 2-3ปี

    เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ครั้งต่อไปควรเลือกแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดไหนดี

    ความรู้แบตเตอรี่รถยนต์ในการเลือกซื้อแบตเตอรี่ เราควรเลือกซื้อตามพฤติกรรมการดูแลรักษาของเรา โดยถ้าท่านไม่มีเวลาดูแลรักษาแบตเตอรี่ ก็ไม่ควรเลือกใช้แบตเตอรี่ชนิดน้ำ นั่นหมายถึงถ้าลืมเติมน้ำแบตเตอรี่จะเสื่อมอายุทันทีซึ่งทำให้ท่านเสียเงินอีก ดังนั้นควรจ่ายเงินซื้อแบตเตอรี่ชนิดแห้งเลยซะทีเดียว ขนาดของเครื่องยนต์ก็เป็นส่วนสำคัญ ในกรณีท่านใช้รถยนต์ขนาด 3,000 ซีซี. ซึ่งควรใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาด 85แอมป์ขึ้นไป ถ้าท่านเกิดอยากประหยัดเลือกแบตเตอรี่ 75 แอมป์เพราะเห็นว่าถูกกว่าหลายร้อย เตรียมตัวไว้เลยแบตเตอรี่ลูกนั้นจะใช้ได้ไม่เกินปีต้นๆ 

    ดังนั้นควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีขนาดแอมป์สัมพันธ์ตามขนาดของเครื่องยนต์ และถ้าท่านใช้รถยุโรปท่านก็ไม่ควรเลือกใช้แบตเตอรี่ขั้วลอยที่ใช้สำหรับรถญี่ปุ่นแม้ว่าจะมีขนาดแอมป์เท่ากัน สาเหตุเนื่องมาจากรถยุโรปต้องการกระแสไฟที่แรงกว่าและมีความต้านทานสูงกว่าดังนั้นท่านควรใช้แบตเตอรี่สำหรับรถยุโรป(แบตเตอรี่ขั้วจม) ควรเลือกซื้อแบตเตอรี่ที่ใหม่สดจากโรงงานเพราะแบตเตอรี่ก็มีอายุงานไม่เกิน3ปีหลังจากผลิต 

    หลักง่ายๆคือเลือกซื้อแบตเตอรี่จากร้านแบตเตอรี่ที่ขายดี หรือเป็นตัวแทนจำหน่ายตรงจากโรงงานแล้วท่านจะได้ของใหม่ชัวร์ ซึ่งในปัจจุบันร้านแบตเตอรี่ที่บริการส่งถึงที่หรือบริการนอกสถานที่เป็นที่นิยมกันมากเพราะ สะดวก ราคาถูก แบตเตอรี่ใหม่ชัวร์(ขายในจำนวนมากๆ) พร้อมลูกค้ามีโอกาสเลือกยี่ห้อได้หลากหลายตามต้องการ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันไป

    วิธีการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์อย่างถูกต้อง

    วิธีการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์อย่างถูกต้อง
    วิธีการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์อย่างถูกต้อง


    วิธีการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์อย่างถูกต้อง

    แบตเตอรี่รถยนต์ที่เราเรียกกันว่าแบตเตอรี่น้ำอันที่จริงคือแบตเตอรี่ชนิดอัดแห้ง (DRY CHARGE)

    แบตเตอรี่ ชนิดอัดแห้งเป็นที่นิยมกัน เพราะการผลิตออกจำหน่ายตามท้องตลาดไม่จำเป็นต้องเติมน้ำกรดไว้ล่วงหน้า เพราะไม่สะดวกต่อการขนส่ง และการเก็บรักษา แผ่นบวกและแผ่นลบ ภายในหม้อแบตเตอรี่จะต้องดูดความชื้นออกให้หมด โดยนำไปอบก่อนประกอบซึ่งแผ่นบวกและลบสามารถป้องกันความชื้นได้ ซึ่งสามารถเก็บรักษาไว้ได้นานประมาณ 1 ปี ถ้าหากมีความชื้นที่แผ่นบวกและลบอาจจะเป็น อ๊อกไซด์ช้าๆ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าแผ่นบวกลบเสื่อมคุณภาพ ปกติเมื่อเติมน้ำกรดลงไปในกรณีฉุกเฉินก็สามารถนำไปใช้งานได้เลย

    วิธีอัดไฟสำหรับแบตเตอรี่น้ำ

    แกะเอาเทปของฝาปิดของทุกๆช่องของแบตเตอรี่ออกก่อนที่จะนำแบตเตอรี่ไปอัดไฟ ยาอิเลคทรอไลด์

    1. ใช้กรดกำมะถันผสมกับน้ำอย่างเจือจาง โดยมีความถ่วงจำเพาะดังตาราง น้ำยาอิเลคทรอไลด์นี้มีอุณหภูมิต่ำกว่า 90F (32C)
    2. เติมน้ำยาอิเลคทรอไลด์ในทุกช่องของแบตเตอรี่ ซึ่งให้สูงท่วมแผ่นบวกลบประมาณ 3/8 หรือท่วมจนถึงขอบสี่เหลี่ยมตรงคอ


    การตั้งทิ้งไว้ (Standing)

    1. หลังจากเติมน้ำยาแล้วตั้งแบตเตอรี่ไว้เฉยๆประมาณ 3-5 ชั่วโมง เพื่อทำให้น้ำยาซึมเข้าไปในแผ่นบวกและลบอย่างทั่วถึง
    2. ภายหลัง 3-5 ชั่วโมงแล้ว ถ้าระดับน้ำยาต่ำลงต้องเติมน้ำยา ซึ่งมีความถ่วงจำเพาะเท่าเดิม จนถึงระดับมาตรฐาน


    การอัดไฟครั้งแรก (First charge)

    1. ใช้สาย (+) สาย (-) จากเครื่องชาร์จไฟ (Current source) ต่อเข้ากับขั้ว (+) และขั้ว (-) ของแบตเตอรี่ให้ตรงกัน
    2. หลังจากอุณหภูมิของน้ำยาต่ำกว่า 90F(32C) ให้เริ่มอัดไฟเข้าแบตเตอรี่โดยใช้กระแสตามที่บริษัท ผู้ผลิตกำหนดแต่ละรุ่น เช่น 4-13 แอมแปร์ สำหรับแบตเตอรี่ 12 โวลต์ ที่มีความบรรจุ 50-200 Ah. และใช้กระแส 2.5 สำหรับแบตเตอรี่ 12โวลต์ ที่มีความจุ 40 Ah.
    3. ทำการอัดไฟจนกระทั่งทุกช่องมีแก๊สเกิดขึ้น แสดงว่าแบตเตอรี่มีไฟเต็มทำการวัดทุกๆชั่วโมง3ครั้งความถ่วงจำเพาะจะต้องคงที่
    4. การอัดไฟจะต้องใช้เวลาประมาณ 15 ชั่วโมง และถ้าแบตเตอรี่เก็บไว้นานๆแผ่นบวกลบจะแห้ง จะต้องทำการอัดไฟนานกว่า คือประมาณ 50 ชั่วโมง
    5. ขณะที่อัดไฟอุณหภูมิของน้ำยาไม่ควรสูงเกินกว่า 110F (43C) ในเขตร้อนถ้าอุณหภูมิสูงกว่านี้จะต้องลดกระแสลง
    6. หลังจากการอัดไฟแล้ว ต้องวัดค่า ถ.พ. ของน้ำยาเปรียบเทียบกับตารางข้างบนที่กล่าวมา


    การอัดไฟอย่างเร็ว (Fast chart)

    การ อัดไฟอย่างเร็ว ซึ่งจะใช้ในกรณีรีบด่วน เช่นช่วยสตาร์ทเครื่องยนต์ ซึ่งจะอัดไฟด้วยกระแสตรงในเวลาอันสั้น กาอัดไฟแบตเตอรี่ 6 โวลท์ จะใช้กระแส 80-100 แอมแปร์, และแบตเตอรี่ 12 โวลท์ จะใช้กระแส 40-50 แอมแปร์ โดยใช้เวลา 1-1 1 ชั่วโมง ก่อนการนำแบตเตอรี่อัดไฟอย่างเร็วควรตรวจดู ถ.พ. และระดับน้ำยาในเซลล์ก่อนโดย ถ.พ. อ่านค่าได้ใกล้เคียงทุกเซลล์ การอัดไฟแบบนี้จะทำให้เกิดปฏิกิริยาสูง ซึ่งอาจทำให้แผ่นธาตุชำรุด หรือเกิดลัดวงจรได้ เพราะการตกตะกอนสูง ดังนั้นถ้าแบตเตอรี่มีตะกอนมากควรนำไปอัดไฟแบบช้า จะทำให้ยืดอายุได้

    ข้อควรระวัง

    1. ขณะอัดไฟอย่างเร็ว อุณหภูมิของน้ำยาอิเลคทรอไลด์ไม่ควรสูงเกินกว่า 125 F
    2. การอัดไฟหลายหม้อควรต่อขนานกันแต่อย่าต่อแบตเตอรี่ 6 โวลท์กับ 12 โวลท์
    3. ระวังแกสไฮโดรเจน และอ๊อกซิเจนที่เกิดขึ้นขณะอัดไฟ
    4. การอัดไฟความเร็วควรเปรียบเทียบและวัด ถ.พ. จากตารางข้างล่าง

    ถ.พ.                                              เวลาการอัดไฟสูงสุด

    1.150 หรื่อต่ำกว่า                                             60 นาที

    1.150-1.175                                                   45 นาที

    1.175-1.200                                                   30 นาที

    1.200-1.225                                                    15 นาที

    สูงกว่า 1.225                                                 อัดไฟอย่างช้า


    การอัดไฟอย่างช้า ๆ (Slow Charging)

    การ อัดไฟอย่างช้าๆซึ่งเป็นแบบกระแสตรงที่ใช้ตามโรงงานทั่วไป โดยเครื่องอัดไฟ ที่มีขนาดแรงดันไฟฟ้าตามที่ต้องการอัด ส่วนกระแสไฟจะอัดเข้าแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับอัตราที่โรงงานผลิตกำหนด จะลดหรือเพิ่มขึ้นอยู่ที่การปรับรีโอสเตทแรงดันระหว่างอัดไฟแต่ละเซลล์จะ เพิ่มขึ้น ถ้าปรับกระแสมากขึ้น ปกติจะอัดไฟค้างคืนหรือระยะเวลายาว การอัดไฟหลายลูกควรต่ออนุกรมกันและจะปรับกระแสให้ต่ำสุด ตามความจุของหม้อแบตเตอรี่ที่เล็กที่สุด เช่น 40 Ah ใช้ 2.5 แอมแปร์ ก็ควรใช้กระแส 2.5 แอมแปร์ หรือไม่ก็คิดอัตราเฉลี่ยประมาณ 5 แอมแปร์ ขณะอัดไฟถ้าเกิดแก๊สขึ้น และ ถ.พ. ของน้ำกรดไม่เพิ่มขึ้นเป็น เวลา 2 ช.ม. แสดงว่าการอัดไฟในแบตเตอรี่นั้นเต็ม

     
    Copyright © PEEICE. Designed by OddThemes